|
สิงห์ เอสเตท 'ชู' Craft to Last
สิงห์ เอสเตท ผู้พัฒนาและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติ 'เผย' 3 หลักการพัฒนาโครงการที่พักอาศัย คอนเซ็ปต์ Craft to Last การออกแบบที่พิถีพิถันและใส่ใจเพื่อรองรับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวใหญ่ ทั้งวัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุ
นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S กล่าวว่า จากข้อมูลของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่ากลุ่มตัวอย่างอายุ 15 65 ปีสูงถึง 70.8% ต้องการอยู่อาศัยในบ้านที่ประกอบด้วยสมาชิกหลายวัย ซึ่งเรามองเห็นแนวโน้มการเพิ่มสูงขึ้นของครอบครัว ในลักษณะนี้ สิงห์ เอสเตทจึงตั้งใจพัฒนาโครงการด้วยคอนเซ็ปต์ Craft to Last การออกแบบที่พิถีพิถันและใส่ใจให้บ้านทุกหลังส่งต่อการอยู่อาศัยแบบ Multi-generation Family Living ที่จะเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาบ้านในอนาคต เพราะเราเชื่อว่า บ้านที่ดีคือบ้านที่เติบโตไปพร้อมกับครอบครัว ยั่งยืนอยู่อาศัยได้ยาวจากรุ่นสู่รุ่น และเป็นพื้นที่เชื่อมให้คนในแต่ละวัยเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ทุกคนในบ้านได้มีความสุขและสุขภาพดีในระยะยาว
สิงห์ เอสเตทได้นำคอนเซ็ปต์ Craft to Last มาพัฒนาหลากหลายโครงการให้สอดรับกับการอยู่อาศัยแบบ Multi-generation Family Living ไม่ว่าจะเป็นบ้านในโครงการ สริน ราชพฤกษ์-สาย 1, สริน พรานนก-กาญจนาภิเษก, ฌอน วงแหวน-จตุโชติ และ ฌอน ปัญญาอินทรา โดยแบ่งเป็น 3 แกนหลักสำคัญในการพัฒนาโครงการด้วยความประณีตและใส่ใจในทุกกระบวนการดำเนินงาน ได้แก่
1) Universal Design for All Generations - ออกแบบเพื่อคนทุกวัย บ้านที่ออกแบบด้วยแนวคิด Universal Design เป็นการออกแบบพื้นที่ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดเล็ก ๆ คำนึงถึงการใช้ชีวิตร่วมกันของคนทุกวัยอย่างปลอดภัยและไร้ข้อจำกัด ทั้งยังจัดสรรให้มีทั้งพื้นที่สำหรับการทำกิจกรรมร่วมกัน และพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคนด้วยแน่นอนว่า ความปลอดภัยในบ้านเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกตั้งแต่การออกแบบ โดยสิงห์ เอสเตทได้ออกแบบให้พื้นที่ทางเดินกว้างขวาง ช่วยให้การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างสะดวก, การออกแบบพื้นที่โดยไม่มีขั้นบันได ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว ไม่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ, ห้องน้ำที่ติดตั้งราวจับที่แข็งแรงและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยเหลือผู้สูงอายุ แต่ยังให้ความปลอดภัยแก่ทุกคนในบ้าน รวมถึงเด็กและผู้ใหญ่ที่อาจต้องการจุดยึดเมื่อลื่นหรือเกิดเหตุไม่คาดคิด
นอกจากนี้การออกแบบในแต่ละรายละเอียดล้วนต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตในบ้านหลังเดิมได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัยเมื่อมีอายุมากขึ้น 2) Good Environment, Green Spaces - สภาพแวดล้อมดี มีพื้นที่สีเขียว เพราะสุขภาพกายและใจคือรากฐานสำคัญของชีวิต บ้านที่ดีจึงควรตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่น ล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียวที่เพียงพอสำหรับการออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ เดินเล่นเบา ๆ หรือนั่งพักผ่อนด้วยกันในสวน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อย่างสระว่ายน้ำสำหรับออกกำลังกายแบบไม่กระทบข้อ คลับเฮาส์ที่เปิดพื้นที่สำหรับกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว และพื้นที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ทำให้ผู้อยู่อาศัยทุกวัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีคุณภาพ
3) Prime Location Near Facilities - ทำเลศักยภาพ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ ทำเลที่ตั้งของบ้านซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะการอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน และโรงพยาบาลชั้นนำ รวมไปถึงการเดินทางที่สะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า และจุดขึ้น-ลงทางด่วน ตอบโจทย์ครอบคลุมทั้งการใช้ชีวิตและความสะดวกสบายของทุกวัยในครอบครัวบ้านสำหรับการอยู่อาศัยแบบ Multi-generation Family Living ไม่ใช่เพียงสถานที่อยู่อาศัย แต่จะต้องออกแบบให้เหมาะสม สิงห์ เอสเตทจึงไม่ได้พัฒนาบ้านเพียงแค่เรื่องรูปแบบหรือขนาดพื้นที่ แต่เป็นการสร้างพื้นที่แห่งชีวิตที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความอบอุ่นใจในทุก ๆ วัน
Go To Lead
|
ลูนิค เรียลเอสเตท ลงเสาเข็ม-ลุยสร้าง Skypark Lucean Jomtien Pattaya
นางสาวอุรดี กุลกีรติยุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลูนิค เรียลเอสเตท จำกัด เผยว่า "เราตั้งใจให้ Skypark Lucean Jomtien Pattaya เป็นลักชัวรีไลฟ์สไตล์แลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางหาดจอมเทียน โครงการนี้เป็นมากกว่าคอนโดหรูริมทะเล เราต้องการนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ให้หาดจอมเทียน ที่นี่นับเป็นทำเลไพร์มที่มีศักยภาพสูง ด้วยชื่อเสียงด้านความเงียบสงบไม่วุ่นวาย และความงดงามของหาดทรายทอดยาวหลายกิโลเมตร ทั้งยังเชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์ฮับสำคัญในเมืองใหญ่ได้อย่างไม่มีสะดุด จอมเทียนกำลังก้าวขึ้นมาเป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ เราจึงตั้งใจรังสรรค์ที่อยู่อาศัยที่สมาชิกในครอบครัวทุกเจเนอเรชันได้มาใช้เวลาคุณภาพร่วมกัน พร้อมตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่เสาะหาประสบการณ์อันน่าจดจำและการพักผ่อนทั้งกายและใจที่บ้าน นอกจากทุกยูนิตจะออกแบบมาอย่างพิถีพิถันและมองเห็นวิวทะเลในแบบพาโนรามาแล้ว เรายังยกระดับการใช้ชีวิตด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันภายในโครงการ นอกจากนี้ การเป็นโครงการ Branded Residence ในเครือบันยันกรุ๊ป ยังทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าการครอบครองยูนิตที่นี่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและมอบผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว พร้อมยังอุ่นใจด้วยการบริหารจัดการ การปล่อยเช่า และบริการหลังการขายที่สะดวกสบายจากแบรนด์ที่อยู่อาศัยลักชัวรีระดับโลก
Skypark Lucean Jomtien Pattaya นำเสนอยูนิตแบบ Studio, ยูนิตขนาด 1-3 ห้องนอน ไปจนถึงยูนิตเพนต์เฮาส์ แบ่งการพัฒนาเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกประกอบด้วย อาคาร A สูง 60 ชั้น (647 ยูนิต) และ อาคาร B สูง 31 ชั้น (252 ยูนิต) ส่วนเฟสสองคือ อาคาร C สูง 60 ชั้น (588 ยูนิต) ไฮไลต์สำคัญคือ ทุกยูนิตมีวิวทะเล 100% ด้วยที่ดินหน้ากว้างถึง 200 เมตร มอบความเป็นส่วนตัวด้วยการออกแบบ Single Corridor ซึ่งจะมีเพียง 1-14 ยูนิต ต่อชั้น ส่วนยูนิตเพนต์เฮาส์ พร้อมมอบความเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 1 ห้องต่อชั้น โครงการได้รับการออกแบบโดยผสานความหรูหราทันสมัยเข้ากับความเงียบสงบของธรรมชาติ เลือกใช้หน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติและระเบียงที่มองเห็นวิวทะเลงดงามในแบบพาโนรามา
Skypark Lucean Jomtien Pattaya ที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีโครงการแรกในพัทยาภายใต้ บันยันกรุ๊ป นำเสนอประสบการณ์ไลฟ์สไตล์เต็มรูปแบบที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเวิลด์คลาส ทั้งสกายเลานจ์, ห้องสมุด, สวนลอยฟ้า, คิดส์คลับ, สกายยิม, ซาวน่า, โคเวิร์กกิ้งสเปซ, Infinity Pool และ Skyline Sunset Garden ตอบโจทย์เฮลตี้ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่อย่างครบถ้วน อีกหนึ่งความพิเศษสำคัญคือ เจ้าของยูนิตจะได้รับเอกสิทธิ์การเป็นสมาชิก The Sanctuary Club สุดเอ็กซ์คลูซีฟโดยบันยันกรุ๊ป รับสิทธิประโยชน์และส่วนลดมากมายจากโรงแรม รีสอร์ต และสปาในเครือบันยันกรุ๊ปทั่วโลกใน 18 ประเทศ 91 โรงแรม พร้อมอุ่นใจกับบริการปล่อยเช่าระดับโรงแรม 5 ดาว (สำหรับอาคาร B)Skypark Lucean Jomtien Pattaya ได้รับการตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ โดยปัจจุบันมีโควต้าต่างชาติเหลือเพียง 15% เท่านั้น พบกับโปรโมชันพิเศษ* ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2568 กับส่วนลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมรับประกันผลตอบแทน 6% เป็นเวลา 3 ปีสำหรับยูนิตในอาคาร B และรับฟรี! เฟอร์นิเจอร์พร้อมเครื่องใช้ในบ้าน ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 3.9 ล้านบาทสามารถเยี่ยมชมโครงการได้ที่สำนักงานขาย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line: @luniquerealestate เว็บไซต์ www.skyparklucean.com อีเมล info@luniquerealestate.com หรือโทร. (+66) 33 674 868
Go To Lead
|
SVR ได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เป็นปีที่5
นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดทำและเปิดเผยข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งครั้งนี้นับเป็นปีที่ 5 เพื่อแสดงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมา จากกิจกรรมต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมขององค์กร โดยนำมาประเมิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ควบคู่กับการสร้างจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและการดูแลสิ่งแวดล้อมให้กับพนักงาน พร้อมกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อลดก๊าซเรือนกระจก สู่การสร้างสังคมคาร์บอนต่ำอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งองค์การสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals : SDGs) และเพื่อร่วมขับเคลื่อนนโยบายของประเทศไทย ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่เป้าหมาย "ความเป็นกลางทางคาร์บอน Carbon Neutrality และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ Net Zero ในอนาคต
อีกทั้งยังพัฒนาแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ โดยมุ่งมั่นตอกย้ำการพัฒนาทุกโครงการของ สิวารมณ์ ให้ตอบโจทย์ Lifestyle สำหรับลูกบ้านเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตรักษ์โลกเป็นบ้านที่ครบทุกความต้องการ กับพื้นที่ใช้สอยที่เลือกได้อย่างอิสระ พร้อมความสะดวกสบายมาก และเป็นบ้านที่ให้คุณภาพชีวิตได้มากกว่า ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ ภายใต้แนวคิด "Best Smart Living" เพื่อสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน
Go To Lead
|
[ENGLISH]
|