|
กรุงศรี-พันธมิตร 'หนุน' Sustainable Banking Transformation
กรุงศรี จับมือ ธนาคารทหารไทยธนชาต เดินหน้าร่วมมือ IFC Alliance for Green Commercial Banks สนับสนุน Sustainable Banking Transformation ในเอเชียแปซิฟิก
Mr.Allen Forlemu ผู้อํานวยการอุตสาหกรรมระดับภูมิภาคของ IFC กลุ่มสถาบันการเงินประจําภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า กลุ่มแรกนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความเป็นผู้นําที่เพิ่มขึ้นของธนาคารพาณิชย์ในด้านการเงินสีเขียว""พันธมิตรเป็นมากกว่าเครือข่าย แต่เป็นชุมชนของสถาบันที่มุ่งมั่นที่ทํางานร่วมกันเพื่อเปลี่ยนแปลงการเงิน ปิดช่องว่างทางการเงินด้านสภาพภูมิอากาศมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ และวางตําแหน่งตลาดเกิดใหม่ในระดับแนวหน้าของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
การทํางานของพันธมิตรในเอเชียยึดโดยหน่วยงานการเงินฮ่องกง (HKMA) โดยมีธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง), Citi, Cr?dit Agricole CIB, HSBC และ Standard Chartered เป็นธนาคารหลักห้าแห่ง กลุ่มพันธมิตรด้านความรู้ในวงกว้าง ซึ่งรวมถึง CDP, CFA Institute, Convergence Blended Finance, Climate Capital Asia, Renewables Academy (RENAC) และโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ให้ความเชี่ยวชาญ เครือข่าย และข้อมูลเชิงลึกของตลาดเพื่อช่วยเร่งการเติบโตของการเงินสีเขียว
ธนาคารใหญ่ของไทย 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) และธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) เข้าร่วมเป็นพันธมิตรธนาคารพาณิชย์สีเขียว (Alliance) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มของ IFC ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มธนาคารโลก พวกเขาร่วมกับธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ อีก 18 แห่ง ก่อตั้งกลุ่มแรกของพันธมิตร ซึ่งมีสินทรัพย์มากกว่า 5.6 ล้านล้านดอลลาร์ นับเป็นก้าวสําคัญในการเร่งการเปลี่ยนแปลงของธนาคารพาณิชย์ไปสู่ความเป็นเลิศด้านการธนาคารสีเขียว โดยบูรณาการแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับโลกเข้ากับรูปแบบธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อการเงินที่ยั่งยืนในตลาดเกิดใหม่และเศรษฐกิจกําลังพัฒนาในเอเชียแปซิฟิก
พันธมิตรเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับเชิญซึ่งรวบรวมธนาคารพาณิชย์ที่มุ่งมั่นที่จะฝังความยั่งยืนไว้ในกลยุทธ์หลักของตนในขณะที่จัดหาเงินทุนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ํา ยืดหยุ่น และครอบคลุม พันธมิตรส่งเสริมการจัดหาเงินทุนสีเขียวอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งครอบคลุมพลังงานหมุนเวียน ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การขนส่งที่ยั่งยืน การเปลี่ยนผ่านทั่วทั้งภาคส่วน การปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ และการแก้ปัญหาตามธรรมชาติและเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงการธนาคารในตลาดเกิดใหม่ไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและยืดหยุ่น
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนแบบ peer-to-peer ที่คัดเลือกสมาชิกได้เรียนรู้เชื่อมต่อและเป็นผู้นําผ่านโมเดลที่มุ่งเน้นการดําเนินการซึ่งส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการธนาคารสีเขียวและสนับสนุนเส้นทางการเปลี่ยนแปลงของพวกเขา การใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสถาบันชั้นนํา พันธมิตรอํานวยความสะดวกในการเข้าถึงที่ปรึกษาและการเงินเฉพาะทางเพื่อช่วยให้พวกเขาปรับขนาดโซลูชันสําหรับการบรรเทาสภาพภูมิอากาศ การปรับตัว และโอกาสด้านสิ่งแวดล้อมในภาคส่วนสําคัญ เช่น พลังงาน การขนส่ง การเกษตร และการพัฒนาเมือง
สมาชิกคนแรกเป็นตัวแทนของตลาดแปดแห่ง ประกอบด้วยสถาบันชั้นนําที่หลากหลายซึ่งได้รับการยอมรับในด้านความเป็นผู้นําตลาด นวัตกรรม และความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน:
บีเอ็นพี ปาริบาส กัมพูชา: BRED Bank Cambodia และ KB PRASAC Bank จีน: Bank of Nanjing, Ma'anshan Rural Commercial Bank, MYbank และ Shanghai Pudong Development Bank อินโดนีเซีย: Bank Negara Indonesia (BNI) และ Bank Shinhan Indonesia สปป.ลาว: Banque Franco-Lao (BFL), Banque Pour Le Commerce Exterieur Lao Public (BCEL) และ Phongsavanh Bank Limited (PSVB)
ฟิลิปปินส์: ธนาคารแห่งหมู่เกาะฟิลิปปินส์ (BPI) และธนาคารรักษาความปลอดภัย ประเทศไทย: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) และธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb)
เวียดนาม: Ho Chi Minh City Development Joint Stock Commercial Bank (HDBank), Orient Commercial Joint Stock Bank (OCB), Vietnam Maritime Commercial Joint Stock Bank (MSB) และ Vietnam Prosperity Joint-Stock Commercial Bank (VPBank)
Go To Lead
|
กสิกรไทย-จุฬาฯ ยกระดับการเรียนรู้ตลอดชีวิต เชื่อมต่อ 2 แพลตฟอร์ม E-Learning ครั้งแรกในไทย
ดร. กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและ AI (Artificial Intelligent) ที่เข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรม ตลาดแรงงานไทยจำเป็นต้องเร่งเพิ่มบุคลากรที่มีทักษะดิจิทัล โดยคาดการณ์ว่าในอีก 2 ถึง 3 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะต้องการบุคลากรด้านนี้ไม่ต่ำกว่า 20,000 ตำแหน่ง ขณะที่องค์กรต่าง ๆ มีความต้องการบุคลากรที่มีทักษะเฉพาะด้านเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธนาคารกสิกรไทย จึงได้พัฒนา SKILLKAMP ขึ้นมา เพื่อเป็นแพลตฟอร์มพัฒนาทักษะดิจิทัล ที่รวบรวมคอร์สเรียนออนไลน์ชั้นนำ รวมถึงมีการสอบประเมินทักษะและต่อยอดโอกาสในการทำงานกับองค์กรชั้นนำอีกด้วย สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการ (MOU) กับบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการศึกษาและพัฒนาแนวทางการเชื่อมต่อแพลตฟอร์ม SKILLKAMP และ Chula Lifelong Learning หรือ Chula X ในครั้งนี้ เพื่อเปิดกว้างการเข้าถึงหลักสูตรคุณภาพมากกว่า 1,000 รายวิชา ครอบคลุมทั้งวิชาการและทักษะดิจิทัล รองรับการ Upskill-Reskill ทุกช่วงวัย ส่งเสริมการเรียนของนักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ยกระดับศักยภาพบุคลากรไทย สู่ตลาดแรงงานในอนาคต โดยผู้เรียนสามารถเข้าสื่อการเรียนการสอนระหว่าง 2 แพลตฟอร์มได้อย่างไร้รอยต่อ โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกและโอกาสการเรียนรู้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
รศ.ดร.ธิติ บวรรัตนารักษ์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีพันธกิจสำคัญในการสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Chula Lifelong Learning Ecosystem) เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่หลากหลายและมีคุณภาพสำหรับคนไทยทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อชีวิตและการทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา อันเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสู่สังคมไทย เพื่อสร้างสมรรถนะและทักษะที่รองรับกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกในศตวรรษที่ 21 โดยระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Chula Lifelong Learning (Chula X) ได้พัฒนาเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่รวบรวมองค์ความรู้หลายศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียนและบูรณาการความร่วมมือข้ามศาสตร์ ครอบคลุมทักษะด้านเทคโนโลยี ดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ การจัดการ การตลาด ภาษา สุขภาพ ศิลปะ และการพัฒนาตนเอง ซึ่งจัดการเรียนรู้ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ พร้อมระบบการสะสมและเทียบโอนหน่วยกิตเข้าสู่หลักสูตรได้อย่างเป็นระบบ
Chula X ไม่เพียงสร้างโอกาสในการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างผู้นำที่มีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต สามารถต่อยอดองค์ความรู้และสร้างโอกาสการทำงานในอนาคต สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ Impactful Growth ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มุ่งขับเคลื่อนการเติบโตอย่างรอบทิศ
เพื่อพัฒนาและช่วยเหลือสังคมอย่างเป็นรูปธรรม และที่สำคัญความร่วมมือระหว่างจุฬาฯ และธนาคารกสิกรไทยในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทั้งสององค์กรในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่เข้มแข็ง พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล รศ.ดร.ธิติ กล่าวเพิ่มเติม
ดร. กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ กล่าวตอนท้ายว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง การเชื่อมต่อของ 2 แพลตฟอร์มช่วยเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาและสร้างบุคลากรคุณภาพที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน และส่งเสริมระบบการเรียนรู้ที่ยั่งยืนเพื่ออนาคตของประเทศไทยต่อไป พร้อมเดินหน้าสู่การให้บริการเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการในปี 2569 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.skillkamp.com หรือสอบถามที่ LINE OA: @skillkamp
Go To Lead
|
ไทยพาณิชย์ โพรเทค คว้ารางวัล 3 ปีซ้อน จากเวที Prime Ministers Insurance Awards
นางสาวปรมาศิริ มโนลม้าย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยพาณิชย์ โพรเทค เปิดเผยว่า การได้รับรางวัลจากเวที Prime Ministers Insurance Awards ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ไม่เพียงเป็นความภาคภูมิใจของเรา แต่ยังสะท้อนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ที่เรายึดมั่น นั่นคือการใช้ข้อมูลเชิงลึกและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับมาตรฐานธุรกิจนายหน้าประกันภัยให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง เราเชื่อว่าความคุ้มครองควรเข้าถึงได้ง่าย โปร่งใส ตอบโจทย์ทุกช่วงชีวิต และเราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบบริการที่ยั่งยืนบนพื้นฐานของความไว้วางใจ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนมั่นใจได้ว่า ไทยพาณิชย์ โพรเทค จะอยู่เคียงข้างในทุกจังหวะสำคัญของชีวิต
ในปี 2567 ไทยพาณิชย์ โพรเทค มีลูกค้าใหม่กว่า 260,000 ราย และรายได้รวมเติบโตขึ้น 24% จากปีก่อนหน้า ตัวเลขเหล่านี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความสำเร็จทางธุรกิจ แต่ยังยืนยันว่ากลยุทธ์ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางคือปัจจัยสำคัญสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่อให้คนไทยมีความคุ้มครองที่เหมาะสมและคุ้มค่า อันจะนำไปสู่การสร้างสังคมที่แข็งแรง พร้อมผลักดันให้อุตสาหกรรมนายหน้าประกันภัยไทยก้าวสู่อนาคตอย่างต่อเนื่อง
บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด (SCB Protect) ได้รับการประกาศเกียรติคุณจากเวที Prime Ministers Insurance Awards 2025 จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยได้รับ รางวัลนายหน้าวินาศภัยนิติบุคคลคุณภาพดีเด่น ประจำปี 2565 ตามด้วย รางวัลนายหน้าประกันชีวิตนิติบุคคลคุณภาพดีเด่น ประจำปี 2566 และล่าสุด รางวัลนายหน้าประกันชีวิตนิติบุคคลคุณภาพดีเด่น ประจำปี 2567 ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการยกระดับมาตรฐานธุรกิจและการให้บริการที่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้า
ไทยพาณิชย์ โพรเทค ดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Trusted Protection มุ่งสร้างความคุ้มครองที่ลูกค้าไว้วางใจได้ ผ่านการให้บริการอย่างไร้รอยต่อ (Omni-channel) ทั้งช่องทางออนไลน์ เทเลเซลล์ และที่ปรึกษาด้านความคุ้มครองทางการเงิน โดยผสานข้อมูลเชิงลึก (Data & Insight) เข้ากับ AI (Artificial Intelligence) เพื่อเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างรอบด้าน ตั้งแต่การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ช่องทางการติดต่อ ไปจนถึงรูปแบบการชำระเบี้ยประกัน เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้าถึงง่าย ครบครัน และตรงกับความต้องการในทุกช่วงชีวิต อีกทั้งยังเสริมประสิทธิภาพด้วย AI QC (Artificial Intelligence Quality Control) เพื่อช่วยควบคุมคุณภาพการสื่อสารอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ การใช้ AI Marketing (Artificial Intelligence Marketing) เพื่อผลิตและนำเสนอเนื้อหาที่แม่นยำตรงกลุ่มเป้าหมาย และเครื่องมือ Voice Blasting เพื่อดูแลลูกค้าหลังการขาย ทำให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์ที่ผสาน Data + AI + Technology นี้ ไม่เพียงยกระดับมาตรฐานธุรกิจนายหน้าประกันภัย แต่ยังตอกย้ำบทบาทของไทยพาณิชย์ โพรเทคในฐานะพันธมิตรด้านความคุ้มครองที่ลูกค้าเชื่อมั่นได้ในระยะยาว
Go To Lead
|
บัตรเครดิต ttb จัดแคมเปญช้อปแบรนด์แฟชั่นชั้นนำสุดคุ้ม
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เอาใจนักช้อปจับมือ เซ็นทรัลพัฒนา มอบสิทธิพิเศษช้อปสุดคุ้มกับร้านค้าแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ อาทิ Charles & Keith, Coach, Kate Spade, Jaspal, Adidas, Levis, Nike, H&M, Uniqlo, Sephora, Pandora, Pomelo และอีกกว่า 60 แบรนด์ดังที่ร่วมรายการในโซนพลาซา ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 28 สาขาทั่วประเทศ เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ttb บัตรเครดิต ttb Global House และบัตรเครดิต ttb Disney รับสิทธิประโยชน์มากมาย เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสม 4,500 บาท / วัน สามารถสะสมใบเสร็จได้สูงสุด 2 ใบเสร็จ เฉพาะ 28 สาขาที่ร่วมรายการ รับ E-Voucher จากศูนย์การค้าเซ็นทรัล มูลค่า 400 บาท สำหรับการใช้จ่ายครั้งถัดไปที่มียอดขั้นต่ำ 1,500 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป รับ Magic Gift Voucher จากบัตรเครดิต ttb มูลค่า 200 บาท / 1 สิทธิ์ จำกัดสูงสุด 2 สิทธิ์ / หมายเลขสมาชิก The 1 / วัน รับฟรี กระเป๋าดีไซน์พิเศษจาก Charles & Keith มูลค่าสูงสุด 990 บาท เพียงมีใบเสร็จจาก Charles & Keith ไม่จำกัดยอดขั้นต่ำ
และพิเศษรับเพิ่ม! เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมตั้งแต่ 10,000 บาท ขึ้นไป / เซลล์สลิป ในวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เฉพาะ 10 สาขาที่ร่วมรายการ ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เซ็นทรัลเวสต์เกต เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เซ็นทรัลพระราม 2 เซ็นทรัลพระราม 3 เซ็นทรัลพระราม 9 เซ็นทรัลอีสวิลล์ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และเซ็นทรัลเวสต์วิลล์ รับเครดิตเงินคืน 1,000 บาท / 1 สิทธิ์ / หมายเลขสมาชิก The 1 ตลอดรายการ ทั้งนี้ สิทธิพิเศษช้อปแบรนด์แฟชั่นชั้นนำสุดคุ้มกับบัตรเครดิต ttb ได้ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2568 30 กันยายน 2568 ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของโปรโมชัน ได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/credit-card/shopping/cpn-shoptuamae-aug25 ทีทีบีส่งเสริมให้ลูกค้าบัตรเครดิตใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งในวันนี้ และอนาคต
Go To Lead
|
SME D Bank สถานะสุดแกร่ง ฟิทช์ เรทติ้งส์
เครดิตสูงสุดในประเทศ ระดับ AAA(tha)
นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศผลการจัดเครดิตของ SME D Bank ประจำปี 2568 โดยคงอันดับภายในประเทศระยะยาวอยู่ที่ AAA(tha) แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตระยะสั้นที่ F1+(tha) ถือเป็นผลประเมินอันดับสูงที่สุดสำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 (ปี 2556-2568) เนื่องจากฟิทช์ฯ มีมุมมองต่อ SME D Bank ว่า มีบทบาทที่สำคัญในการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ โดยกระทรวงการคลัง ถือหุ้นถึง 99.4% สะท้อนถึงความมีเสถียรภาพ สถานะเข้มแข็งมั่นคง และมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ในการสนับสนุนช่วยเหลือและสร้างโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความท้าทายสูง ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งทุนจากธนาคารพาณิชย์ทั่วไป
อีกทั้ง รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน SME D Bank อย่างต่อเนื่อง เพราะเล็งเห็นถึงบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจไทย จากสัดส่วนประมาณ 35% ของ GDP ณ สิ้นปี 2567 นอกจากนั้น ฟิทช์ฯ ยังเชื่อว่า รัฐบาลจะคงให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในระยะยาวต่อไป ด้วยบทบาทเฉพาะของ SME D Bank และความเชี่ยวชาญในกลุ่มดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญต่อเนื่องในการช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจไทย ควบคู่กับช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในช่วงที่เศรษฐกิจอ่อนแอ
สำหรับ SME D Bank ยึดมั่นแนวทางสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ด้วยกระบวนการ พัฒนาคู่เติมทุน สำหรับด้าน การเงิน ผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อตามนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) ซึ่งธนาคารได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาล สนับสนุนผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุน ช่วยเสริมศักยภาพและลดต้นทุนธุรกิจ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ได้แก่ 1.สินเชื่อ SME Green Productivity วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท 2.สินเชื่อ ปลุกพลัง SME วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด 1.5 ล้านบาท และ 3.สินเชื่อ Beyond ติดปีก SME วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ควบคู่บริการด้าน การพัฒนา ครบวงจร ผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ช่วยผู้ประกอบการยกระดับธุรกิจ และเดินหน้ากิจการสู่ความสำเร็จ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
Go To Lead
|
[ENGLISH]
|